หน้าเว็บ

อาณาจักรสุพรรณภูมิ 1

การพิสูจน์โบราณสถานทุกแห่งมีเคล็ดลับเพียงนำอิฐหรือศิลาแลงมาถ่ายภาพแล้วกลับเป็นฟิล์มเราจะเห็นตำหนิว่ามีอักษรไทยโบราณและภาพกษัตริย์และเลขศักราชติดอยู่บนอิฐหรือแลง ดังนั้นหากเราอ้างอิงวัสดุที่ใช้ก่อสร้างเทวาลัย วิหาร อารามนั้น ๆ แล้ว มันเป็นข้อยุติในการสืบค้นอายุ-สมัยแต่ว่า วิธีการนี้มันง่ายและลงทุนน้อยไปหน่อยไม่สมศักดิ์ศรีเจ้าของที่แท้จริงคือชาวไทย เดี๋ยวจะว่าไม่มีกึ๋นทำเป็นเซียนพระที่ยกขึ้นส่องแล้วบอกเก๊ฉะนั้น

Posted by อาณาจักร สุวรรณภูมิ on 11 กรกฎาคม 2015

อาณาจักรสุพรรณภูมิ 2

เขมรใช้กลยุทธรุกรานแผ่นดินชาวไทยด้วยวิธีการสับปรับเจรจาก็อย่างหนึ่งการกระทำก็อย่างหนึ่ง ครั้งสุดท้ายศาลโลกตัดสินยืนว่าเขาพระวิหารเป็นไปตามคำตัดสินเดิมให้ไทยและเขมรบริหารจัดการมรดกโลกนี้ทั้งสองฝ่าย เขมรยกเป็นวาระเจรจาแต่ถือโอกาศสร้างถนนตัดอ้อมเข้ามายังแผ่นดินไทยขึ้นเขาพระวิหารจัดทัวร์ต่างชาติมาชี้แจงสิทธิในกรรมสิทธิ์ของเขมร..ฝ่ายไทยถูกระงับไม่ให้ขึ้นไปบนเขาด้วยยึดว่าเป็นช่วงเวลาเจรจาข้อตกลง ทหารไทยยยืนดูการพัฒนาที่เขมรกู้ญี่ปุ่นมาสร้างทางไปเรื่อย ๆ ด้วยเชื่อว่าเป็นสิทธิของเขมร

Posted by อาณาจักร สุวรรณภูมิ on 11 กรกฎาคม 2015

วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2558

สุวรรณภูมิ 1



  • พงศาวดารไทยใหญ่ อ่านไปอ่านมา เนื้อหาแต่งเป็นนิยายผสม แบบเดียวกับพงศาวดารเหนือ สิงหนวัติ โยนก ทำนองเดียวกัน 
  • แต่ของไทยใหญ่ พม่าเอาไปเป็นประวัติศาสตร์ต้นตระกูลบรรพบุรุษ เสียตั้งแต่เริ่มต้น (คงไม่รู้ว่าไทยใหญ่ไทยอาหม ไทยน้อย มีต้นกำเนิดที่พุกาม) แปลว่า พม่าเป็นชาติที่เริ่มก่อตั้ง 
  • เมื่อสมัยพระเจ้าอู่ทองเข้ารวมหงสาวดีเป็นอาณาจักร ตามตำนานว่า ชาวพม่าไม่พอใจจึงพากันหลบหนีออกไปตองอู หรือมัณฑเลย์จำไม่ได้ 
  • แล้วรวบกำลังเข้าตีเมืองหงสา ฯ เข้าเป็นอาณาจักรเดียวกัน เมื่อชนะศึกก็รุกมาถึงเมืองเชียงใหม่ด้วย
  • มันเเกิดขึ้นหลังศักราช ๗๑๒ พม่าจึงมีประเทศที่ยังไม่ลงตัว และปฏิเสธเสมอว่า พม่าไม่เคยมาตีไทย ไม่ได้เผาอยุธยาเป็นมอญรบกับไทย
  • ท่าจะจริงพม่าลืมไปว่า ฮุบพงศาวดารไทยไปขึ้นต้น แล้วลงท้ายด้วยกษัตริย์สีป่อนั่นเอง


  • หงสาวดีคนมอญเอง ก็ไม่ได้รู้เรื่องราวต้นกำเนิดว่ารับอารยะธรรม มาจากชาวทราวิฑ ที่สร้างอาณาจักร
  • เพราะมัวแต่ก้มหน้ารับใช้เป็นทาส ก็แบบเดียวกับไทยนี่แหละ ครั้นพอสิ้นชาติสิ้นกษัตริย์ไปแล้วก็ไม่รู้ว่าเจดีย์นี่ใครมาสร้างไว้ 
  • เขียนตำนานพงศาวดารก็เลยยกกตน เป็นชาติเก่งกาจเจริญรุ่งเรืองมาก่อน (ไทยเขียนให้เพราะชอบยกสมบัติให้ชาติอื่นอยู่แล้ว เราเจาะลึกหาความจริงก็พบว่า เป็นยุคโบราณศักราช ๒๕๖ ลงมาเช่นเดียวกับไทยนี่เอง)


  • สมัยเมื่อ ๑๑๔๒ ปีที่ผ่านมานั้น คงเป็นยุคขยายอาณาจักรของชาติอารยะเท่าๆ กัน แหลมทองจึงตกอยู่ใต้อำนาจของกษัตริย์พรหมราชา 
  • ที่นำพระศาสนา การเมืองการปกครอง มาจัดระเบียบให้ชนพื้นเมือง ทั้งมอญ ไทย เราพบหลักฐานภาพและอักษร ที่ชาวไทยใช้อยู่อีก 
  • ครั้นจะไปตู่ว่า นี่เป็นบ้านเมืองของเรา เหมือนไปตู่เขมร ก็รูสึกเกรงใจ และพูดไม่รู้เรื่องกับมอญแน่ พม่าก็คงไม่ให้ 
  • เราก็เลยได้แต่ สรุปหลักฐานว่าความเป็นมาในอดีตมันเป็นอย่างนั้น ๆ ท่านเขียนประวัติอย่างนี้ ๆ มันหลอกเราเพราะแท้จริงไม่มีใครรู้เรื่องพวกนนี้เลย



  • พระถังซำจังรูปนี้ ไม่ได้เป็นเพียงแต่ตัวละครในนิทานเท่านั้น หากเเต่มีตัวตนจริงอยู่ในโลกนี้ด้วย พระถังซำจั๋งมีฉายาทางพระว่า “ เฮียนจาง” 
  • เป็นพระภิกษุจีนรูปหนึ่งในสมัยราชวงศ์ของฮ้องเต้ ถังไท่จง คำว่า “ ซำจั๋ง” แปลว่าพระไตรปิฏก ถ้าเรียกให้ถูกต้องควรเป็น “ ถังซำจั๋งฮวบซือ” 
  • ซึ่งฮวบซือนี้แปลว่าธรรมาจารย์ รวมแปลได้ว่า “ พระธรรมาจารย์ผู้แปลพระไตรปิฏกในราชวงศ์ถัง......
  • พระถังซำจังได้คัดลอกคัมภีร์มาจากอินเดียด้วยกระดาษสา เราอ่านอักษรจีนไม่ออกแต่อยากรู้ว่าใครทำกระดาษสาสมุดข่อยนี้...เพราะเราอยากรู้...แล้วเราก็ได้รู้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น